สาเหตุที่ทำให้ม้ามเสื่อม
สาเหตุที่ทำให้กระเพาะม้ามเสื่อมและเกิดโรค 1
เหตุปัจจัยที่ทำให้อวัยวะและกลไกการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายของคนเราเสื่อมสภาพลงนั้นมีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งที่เป็นสาเหตุที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
สาเหตุที่เกิดจากการใช้งาน และสาเหตุที่เกิดจากการละเลยไม่ดูแลถนอมรักษาอวัยวะเหล่านั้น ซึ่งอาจจำแนกสาเหตุที่ทำให้กระเพาะม้ามเสื่อมและเกิดโรคได้ดังนี้
-----------------------------
กรรมพันธุ์
พ่อแม่เป็นเซลล์ต้นกำเนิด ยีนในส่วนที่อ่อนแอก็จะตกทอดมาถึงลูกได้
หากยีนในส่วนของกระเพาะม้ามของพ่อแม่ไม่แข็งแรง
ลูกก็จะได้รับส่วนที่ไม่แข็งแรงนี้
มาด้วย โรคที่เกี่ยวกับกระเพาะ ลำไส้ และม้ามจึงเกิดขึ้นได้ง่าย
-----------------------------
พฤติกรรมการกิน
การกินแบบกินจุ ดื่มจัด และกินอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ ยิ่งการกินแบบบุฟเฟต์
หรือในงานเลี้ยงที่มีอาหารอร่อยๆ มากมายรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย
ยิ่งทำให้คนดื่มกินกันเต็มที่จนเกินกำลังของกระเพาะ ม้ามต้องทำงานหนักมาก
เปรียบเสมือนลูกโป่ง หากบรรจุแก๊สมากเกินไป ลูกโป่งก็แตกได้
การกินอาหารน้อยเกินไปการลดอาหาร หรือถึงกับอดอาหารเป็นมื้อๆไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่เคยชิน
ความจำเป็น หรือเพราะต้องการลดน้ำหนัก กลัวอ้วน อยากผอม เพรียวบางตามสมัยนิยม
ทั้งนี้รวมไปถึงการกินพืชผักผลไม้แทนอาหารหลัก กินทุกมื้อโดยไม่มีธัญญาหารเข้ามาร่วมด้วย
การกระทำเหล่านี้เป็นการทำร้ายกระเพาะม้ามและร่างกายของตัวเองอย่างหนัก
นอกจากเกิดโรคกับกระเพาะม้ามแล้ว ยังนำให้โรคอื่นๆ ตามมาอีกด้วย
การกินอาหารไม่เป็นเวลา ถึงเวลาอาหารยังติดธุระหรือทำงานติดพัน หรือ
ตอนเย็นต้องให้สมาชิกกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาจึงจะกิน
หรือถึงเวลาแล้ว แต่ยังไม่หิวก็ยังไม่ยอมกิน แต่พอลงมือกิน ก็กินเร็ว รีบเคี้ยว รีบกลืน
หรือดึกแล้วก็ยังกินอาหารอีก พฤติกรรมเกล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อกระเพาะ ม้าม และ
ลำไส้กระเพาะม้ามทำงานหนัก ขับถ่ายไม่ดี อ่อนล้า ทำงานไม่เต็มที่
โรคเกี่ยวกับกระเพาะม้ามก็จะตามมาโดยง่าย
อาหารที่กินเข้าไปก็มีส่วนทำให้กระเพาะม้ามเสื่อมหรือเกิดโรคได้ เช่น อาหารไม่สะอาด
ปนเปื้อนวัตถุปรุงแต่งมากเกินไป
อาหารปิ้งย่างหรือทอดมาก เกินไป อาหารค้างคืน หรือกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป
หรือกินผักผลไม้น้อยเกินไปหรือไม่กินผักผลไม้เลย ทำให้กระเพาะม้ามทำงานหนัก
ขับถ่ายยาก เป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระเพาะม้ามได้
อุณหภูมิและฤทธิ์เย็นของอาหาร ความเย็นของอาหารที่กล่าวถึงข้างต้นนี้มีสองแบบ
หนึ่งคือ เย็นที่อุณหภูมิ เช่น ไอศกรีม น้ำอัดลมแช่เย็น น้ำแข็ง
น้ำผลไม้ปั่นเกล็ดน้ำแข็ง เครื่องดื่มแช่เย็น อาหารแช่เย็น
แบบที่สอง คือ พืชผักที่มีฤทธิ์เย็นอาหารที่เย็นเหล่านี้เป็นเหตุทำให้กระเพาะม้ามหนาวเย็น
ซึ่งความหนาวเย็นนี้ไปทำลายหยางของกระเพาะและม้าม เพราะการทำงานของกระเพาะ
และม้ามต้องอาศัยหยางช่วยการทำงานจึงจะทำงานได้ตามปรกติ
ความเย็นของอาหารหรือเครื่องดื่ม ถ้ากินมากเกินไป หรือกินแต่ผักที่มีฤทธิ์เย็นเป็นประจำ
ก็ทำให้กระเพาะและม้ามหนาวเย็น
และทำงานผิดปรกติ ซึ่งจะทำให้หยางหยุดนิ่ง
แต่ดังได้กล่าว แล้วว่าชี่กระเพาะควรลง
ถ้าไม่ลงก็จะทำให้ท้องอืดแน่น เรอ สะอึก หรือคลื่นไส้อาเจียน ชี่ม้ามที่ควรขึ้นกลับไม่ขึ้น
ทำให้ท้องอืดแน่น ลมในท้องมาก ผายลมบ่อย ถ่ายเหลว ท้องร่วงเรื้อรัง
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรใส่ใจให้มากก็คือ หลังจากที่เราอยู่ในที่ร้อนๆ หรือหลังการออกกำลังกาย
ขณะที่ร่างกายมีอุณภูมิร้อน รูขุมขนเปิด เหงื่ออกมาก
แต่เรามักจะอยากดื่มน้ำเย็นๆแก้กระหาย ทำให้กระเพาะและม้ามชะงักการทำงาน รูขุมขนปิด
ผิวหนังเก็บกักความชื้นเอาไว้ในร่างกาย ส่งผลให้ม้ามชื้นเพิ่มตามมาอีกด้วย
-----------------------------
ยา
ดังได้กล่าวไว้ในเรื่องของตับแล้วว่า เมื่อเจ็บป่วยต้องรักษา หนึ่งในการรักษาโรคให้บรรเทาหรือหายนั้นก็คือการกินยา
ยามีข้อดีตรงที่ช่วยบรรเทา หรือรักษาอาการเจ็บป่วยบรรเทาลงได้ แต่ยาก็มีผลข้างเคียงที่มีตกค้างสะสม
หรือรบกวนการทำงานของอวัยวะระบบย่อยทุกส่วนรวมทั้งกระเพาะและม้าม
จะถูกทำร้ายได้ ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรกินยาพร่ำเพรื่อ หรือควรปรึกษาแพทย์หรือให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาจะดีที่สุด
-----------------------------