ภูมิแพ้ผิวหนัง
-
ประสบการณ์จากการรักษาคนไข้ โดยหมอพลอย
ผิวหนังอักเสบ ตอน 2 ภูมิแพ้ผิวหนัง
คนไข้ผู้หญิง อายุ40 ปี มาด้วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่เป็นมานานถึง 4 ปี
อาการหลักคือ คันตอนกลางคืนมากจนต้องใช้ฟิล์มมาห่อตัว เพื่อไม่ให้เผลอตื่นมาเกากลางดึก
-------------------------------------------
ประวัติ คนไข้เคยทำงานที่โรงงานพลาสติกมาก่อน ทำงานหนัก เครียด นอนดึก
และจำเป็นต้องสังสรรค์เป็นประจำ
หลังจากได้เปลี่ยนงาน ปรับวิถีชีวิต โรคภูมิแพ้ผิวหนังจึงเริ่มปรากฏขึ้น
อาจเพราะโรคได้ก่อตัวสะสมมาก่อนหน้านั้นแล้ว
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เป็นโรงงาน อาจได้รับมลพิษต่างๆ สะสมไปในร่างกาย
การนอนดึก ความเครียดและแอลกอฮอล์ล้วนส่งผลกับการทำงานของตับทั้งสิ้น
“ตับ” เปรียบเสมือนทะเลแห่งเลือด จึงเป็นอวัยวะที่สำคัญในหลักแพทย์จีน
เพราะทุกอวัยวะล้วนต้องใช้เลือดมาหล่อเลี้ยง แต่หากเครียดและนอนไม่หลับ จะทำให้ตับอั้น
การไหลเวียนของเลือดจากตับไปสู่อวัยวะอื่นไม่ดีพอ จึงทำให้เกิด “เลือดพร่องทำให้คัน”
เพราะหากเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนังไม่พอ ความชุ่มชื้นน้อยลง จะทำให้ผิวหนังแพ้ง่าย ผิวแห้งคัน
คนไข้รักษาโดยการใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์รักษามาตลอด
"พอทายาอาการก็ดีขึ้น แต่ก็ยังกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก"
ร่างกายคนเรานั้นสร้างฮอร์โมนเสตียรอยด์ขึ้นมาเองได้ เพื่อควบคุมการทำงาน
ของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น ต้านการอักเสบ กดภูมิคุ้มกัน
ทางการแพทย์จึงสังเคราะห์เสตียรอยด์ขึ้น เพื่อการต้านฤทธิ์อักเสบนั้นๆ
แม้จะหายได้รวดเร็วแต่การใช้เป็นระยะเวลานานอาจทำให้ภูมิต้านทานตามธรรมชาติลดลงได้
มีการขยายตัวของเส้นเลือดในชั้นผิวหนังแท้ ผิวเปราะบาง ติดเชื้อได้ง่าย
เมื่อได้ใช้เสตียรอยด์แล้วก็อาจต้องใช้ไปตลอด
พอหยุดยาอาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้น (ภาวะผิวหนังติดสเตียรอยด์)
คนไข้จึงเลือกมารักษาทางแพทย์แผนจีนกับทางเรา
-------------------------------------------------------------------------------------
การรักษา อาการสำคัญของคนไข้ในครั้งแรก มีดังนี้
-
ผิวแห้งคันมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน กระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ
-
ลักษณะแผลเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก ขึ้นมากบริเวณหน้าแข้ง และช่วงแขนเล็กน้อย
-
ประจำเดือนปริมาณน้อย สีคล้ำ
-
ชีพจรอ่อนแรง ลิ้นชมพูฝ้าขาวบาง
จากอาการข้างต้น จึงวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากเลือดพร่อง จึงให้รับประทานยาจีนที่มี
ฤทธิ์ช่วยบำรุงเลือดและแก้คัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ควบคู่กับการฝังเข็มและครอบแก้ว
ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณแผลและช่วยลดการอักเสบได้ ที่สำคัญให้หยุดยาเสตียรอยด์เด็ดขาด
และระมัดระวังเรื่องอาหารเผ็ดร้อน ของมันของทอด และงดแอลกอฮอลล์
ในการรักษา ช่วงแรกจะมีแผลเห่อมากขึ้น เพราะผลจากการหยุดยาเสตียรอยด์
และยาจีนที่มีการขับพิษออก ทั้งที่มีแผลเห่อขึ้น แต่อาการคันกลับน้อยลง นอนหลับได้มากขึ้น
หลังการรักษาผ่านไป 5 ครั้งอาการคันน้อยลงมาก แผลเริ่มจางลงเรื่อยๆ
และเมื่อรักษาต่อเนื่องถึง 10 ครั้ง อาการคันหายสนิท เหลือเพียงรอยแผลเดิมเท่านั้
เมื่อจบคอร์สการรักษาจึงให้ยาเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการเดิมกลับมาได้อีก
ดังที่กล่าวมาข้างต้น โรคต่างๆ อาจเกิดได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ที่เราอาจคาดไม่ถึง หากหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคได้
และการอุดรอยรั่วเหล่านั้นก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้มากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือความมุ่งมั่น ความตั้งใจในการของคนไข้
หากคนไข้มีความต่อเนื่องและแน่วแน่ในการเข้ารับการรักษา
ให้ความร่วมมือในการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามคำแนะนำของหมอ
ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาเพิ่มมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัวเลยทีเดียวค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------
สงวนลิขสิทธิ์ โดย หมอพลอยและไพรเวชคลินิกการแพทย์แผนจีน
ติดต่อเรา
สอบถามรายละเอียด
นัดหมาย
หรือ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
CLICK เลย!!