8 สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปอด
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปอด
ปัจจัยที่ทำให้ปอดเกิดโรคนั้นมาหลายเหตุหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน และทุกปัจจัย เราสามารถควบคุมตัวเองหรือหลีกเลี่ยงได้ทั้งสิ้น ดังนี้
1) ความหนาวเย็น
ปอดชอบความอบอุ่นกลัวความหนาวเหน็บความหนาวเย็นไม่ว่าจะเป็นความหนาวเย็นจากดินฟ้าอากาศ หรือจากเครื่องปรับอากาศ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคปอดและทำให้คนที่เป็นโรคปอดอยู่แล้วมีอาการกำเริบหรือเป็นหนักยิ่งขึ้น
เมื่อความหนาวเย็นมากเกินหรือเข้าสู่ร่างกายกระทันหันชี่ปอดถูกอุดกั้นการฟุ้งกระจายติดขัดสารนํ้ามารวมในที่เดียวหลอมจนกลายเป็นเสมหะ เกิดอาการไอหอบ ดังนั้น ฤดูหนาวไม่เพียงเป็นฤดูกาลที่ทำให้เป็นหวัดและหอบหืดง่ายเท่านั้น ยังเป็นฤดูกาลที่ทำให้ผู้ที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ปอดพองกำเริบง่ายอีกด้วย
2) ดินฟ้าอากาศ
อากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันหรือรอยต่อของฤดูกาล ความหนาวเย็น ความร้อนล้วนส่งผลกระทบต่อปอดก่อนอวัยวะอื่นใด ปอดอยู่ที่ทรวงอกเป็นช่องทางเข้าออกขึ้นลงของชี่เชื่อมกับลำคอเปิดประตูที่จมูกเชื่อมกับผิวหนัง เชื้อไวรัสมักเข้าสู่ร่างกายเมื่ออากาศเปลี่ยนยิ่งอากาศมาผิดฤดูกาลจะยิ่งทำให้เจ็บป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจง่ายอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น หนาวร้อนผิดฤดูกาล หรืออากาศเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจะเป็นหวัดและโรคทางเดินหายใจง่ายโดยเฉพาะเมื่อร่างกายอ่อนแอ
3) บุหรี่
ควันจากบุหรี่เป็นควันพิษมีความแห้งมีความร้อนที่เผาสารยิน สารนํ้าในเยื่อบุในลำคอหลอดลม และปอดจนขาดความชุ่มชื้นนานไป เกิดการอักเสบ ทำให้มีเสมหะไอเมื่อไอมากไอกระชากไอนานถุงลมเล็กของปอดจะแตกจากถุงลมเล็กรวมกันเป็นถุงลมใหญ่ขึ้นความยืดหยุ่นของถุงลมลดลงการยุบพองของปอดจึงไม่เต็มที่ ตัวเยื่อบุหลอดลมเองก็อักเสบ แห้งกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอหอบและถุงลมโป่งพองลามไปถึงหัวใจกลายเป็นโรคปอดร่วมกับหัวใจ
นอกจากนี้ นิโคตินในควันบุหรี่ที่เกาะตามนิ้วมือลำคอหลอดลม และปอดทำให้เป็นพิษต่อลำคอหลอดลม ปอดและทั่วร่างกาย ทั้งยังส่งผลกระทบถึงไตเพราะปอดเป็นแม่ของไต
เมื่อยินปอดพร่องนานๆก็จะส่งผลให้ยินไตพร่องตามไปด้วย ทำให้ไตไม่เก็บรับชี่เมื่อยินพร่อง ไฟลุกเผานํ้าจนกลายเป็นเสมหะ เสมหะจึงมีมากและเหนียวข้นขับออกยาก หายใจยาก หายใจตื้น ขยับหน่อยก็เหนื่อยหายใจไม่ออกในที่สุดเป็น “ปอดพอง” “ถุงลมโป่งพอง” ลามไปถึงหัวใจเป็นโรคหัวใจร่วมกับปอด
เมื่อถุงลมปอดถูกทำลายมากๆชี่ปอดอ่อนแอทำให้กลายเป็นมะเร็งปอดในที่สุด
4) อาหารการกิน
บริเวณคอเป็นทางสี่แยกคือปากต่อไปที่หลอดอาหารและจมูกต่อไปที่หลอดลมไม่ว่าจะกินอาหารหรือหายใจต้องผ่านตรงนี้ จากนั้น ก็ไปตามไฟแดงไฟเขียวของสี่แยกถ้ากินอาหารไฟแดงเปิดส่งสัญญาณให้หลอดลมปิดไฟเขียวส่งสัญญาณให้อาหารไหลลงไปที่หลอดอาหารพอหายใจไฟแดงส่งสัญญาณให้หลอดอาหารปิดส่งสัญญาณเขียวให้หลอดลมเปิดอากาศไหลลงหลอดลมจะเห็นว่าทั้งการกลืนและหายใจล้วนผ่านสี่แยกนี้
เวลารู้สึกร้อนในโดยเฉพาะในช่วงเป็นหวัดร้อนเมื่อดื่มเครื่องดื่ม กินยาหรืออาหารฤทธิ์เย็นเช่นสาลี่องุ่นอย่างกะทันหันทำให้ความเย็นความร้อนปะทะรวมกันที่ลำคอจนคันคอแล้วไอมากขึ้น ลองสังเกตว่าขณะเป็นหวัด ถ้ากินนํ้าแข็งจะยิ่งทำให้ไอมากรักษายากด้วย ไอนานไม่หายกลายเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
หรือหากกระเพาะม้ามไม่แข็งแรงย่อยไม่ดีกินอาหารหวานจัดมันจัดทำให้มีเสมหะมากเข้าถึงปอดทำให้ไอมากหอบแน่นหน้าอก
5) กลิ่นแปลกปลอม
จมูกเป็นทวารของปอดพอมีกลิ่นเหม็นฉุนมีหมอกควันฝุ่นละอองหรือกลิ่นนํ้าหอมที่บางคนไม่ชอบโดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วพอได้กลิ่นแปลกๆเหล่านี้จะทำให้จามไอแน่นหน้าอกหายใจลำบาก หรือหอบทันทีเป็นเหตุให้เกิดโรคภูมิแพ้หอบหืดเรื้อรังเกิดขึ้นได้
6) อารมณ์
ความโกรธเครียด เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนถือเป็นเรื่องปรกติแต่หากมาอย่างเฉียบพลันเป็นมากหรือยืดเยื้อยาวนานเมื่อมีอารมณ์โกรธมากเป็นบ่อยจะทำร้ายตับความโกรธผลักดันชี่ดันขึ้นบนย้อนกลับมากระทบถึงปอดดังที่แผนจีนเรียกว่า“ไฟตับเผาปอด”ทำให้เกิดอาการไอมากกระทั่งไอเป็นเลือดหอบหืดหนักขึ้น
ในหลักธาตุทั้งห้าของจีนปอดจะข่มตับไม่ให้หยางชี่ตับมากจนเกินไปเมื่อปอดอ่อนแอดึงรั้งหยางตับไว้ไม่อยู่ อีกทั้งมีสาเหตุที่ทำให้ตับมีหยางมากจนลุกเป็นไฟย้อนกลับมาข่มปอดมาเผาสารนํ้าสารยินของปอดจนเกิดอาการ “ไฟตับเผาปอด”
สิ่งที่ร้ายกว่านั้น คือ หากมีเสมหะร่วมด้วยแสดงว่าสัญญาณเตือนของมะเร็งปอดขั้นแรกเริ่มต้นขึ้นแล้วในการรักษามะเร็งปอดของแผนจีน จึงมักเริ่มจากการลดไฟตับไม่ให้เผาสารนํ้าของปอดพร้อมกับต้องบำรุงปอดให้แข็งแรงต้านยันการข่มของตับให้ได้
7) เหนื่อยล้าหรือพักผ่อนมากเกินไป
ไม่ว่าจะเหนื่อยเกินไปหรือพักผ่อนมากเกินไปว่างเกินไปล้วนเป็นการสูญเสียชี่ปอดมากและเร็ว ความเหนื่อยล้าของร่างกายจะตามมา เห็นได้จากการทำงานไม่ทนเหนื่อยเร็วหรือทั้งวันไม่ทำอะไรนั่งๆนอนๆไม่ออกกำลังกายกลายเป็น “โรคเหนื่อยล้าเรื้อรัง”
คนเราเกิดมาต้องทำงานต้องเคลื่อนไหวต้องออกกำลังกายเลือดลมจะไหลเวียนดี ปอดจะหายใจได้ลึกช่วยสูดออกซิเจนได้มากขึ้นปอดจึงจะแข็งแรง
ดังนั้นอะไรที่เกินไปไม่ว่าจะเป็นการเหนื่อยเกินไปหรือสบายเกินไปล้วนทำให้ปอดอ่อนแอ นำพาให้เกิดโรคอื่นได้ง่ายทำลายชี่ดั้งเดิมก่อให้เกิดชี่พร่องโดยเฉพาะชี่ปอดดังคำกล่าวที่ว่า “นอนมากเกินไปทำร้ายปอด”
8) มลพิษ ฝุ่นละอองในสิ่งแวดล้อม
ทุกวันนี้มลภาวะเป็นพิษรอบตัวเรามีทุกแห่งหน ฝุ่นละอองควันรถบนท้องถนน ในโรงงาน ท้องนาสวนผลไม้ สวนผัก คอกสัตว์เลี้ยง กระทั่งในบ้านที่มีท่อนํ้าทิ้ง มีตลาดสดอยู่ใกล้เคียงเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้านให้นอนร่วมห้องปลูกต้นไม้มีหนอนแมลงมากล้วนเป็นสิ่งแปลกปลอมคอยกระตุ้นระบบหายใจเราอยู่เป็นประจำ สั่งสมจนปอดร้อน จนคัดจมูก จมูกแห้ง คอแห้ง แน่นหน้าอก ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ อันเป็นการบ่งบอกว่าปอดอ่อนแอ จนเกิดโรคภูมิแพ้ ไอ หอบหืด และโรคทางเดินหายใจอื่นๆตามมา