ปวดจากไตเสื่อม

อาการปวดเมื่อย อาจจะเกิดจากไตเสื่อม 

"อาการปวด"
เป็นอาการยอดฮิตที่พบได้มากที่สุดในคลินิก
เช่น ปวดหัว ปวดตา ปวดคอ ปวดบ่า
ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า ปวดขา ปวดนิ้ว เป็นต้น

.
สำหรับแพทย์แผนจีนนั้น "อาการปวด"  เกิดจากสาเหตุง่ายๆอยู่ 2 กลุ่ม
คือ ภาวะพร่อง(ชี่และเลือดไม่เพียงพอ) และ ภาวะเกิน(การไหลเวียนติดขัด)
มีคำกล่าวว่า “ไหลเวียนสะดวกก็จะไม่ปวด ไหลเวียนไม่สะดวกก็จะปวด”

.

ดังนั้น
การทำงานหนักเกินไป การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การยืนนาน การนั่งนาน การนอนนาน
การทานของเย็น การโดนลมแอร์โดยตรง การใช้สายตานาน ล้วนแล้วทำให้เกิดอาการปวดได้
.
.
นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างเท่านั้น  สาเหตุของการปวดมีได้อีกมากมายนับไม่ถ้วน
.
แต่มีสาเหตุของอาการปวดหนึ่งที่เป็นเรื่องน่ากังวล คือ ปวดจาก “ไตเสื่อม”
.
.
“ไตเสื่อม” เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดตามร่างกายได้เหมือนกัน

แต่อาการจะเป็นในเชิงปวดเมื่อย ปวดรำคาญ จุดสังเกตที่พบได้คือ มีอาการปวดหลัง
ปวดขา เข่าไม่มีแรง เป็นนานแบบเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ 
.
.
เคยมีคนไข้เพศชาย อายุ 60 ปี มารักษาด้วยอาการปวดตึงต้นขา อาการเป็นๆ หายๆ
.
และเริ่มเป็นหนักหนักช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ถ้านั่งห้อยขานานจะปวด นั่งขัดสมาธิจะค่อยยังชั่ว
อาการเริ่มจากตึงน่องก่อนแล้วถึงเริ่มตึงต้นขา งานที่ต้องทำจะต้องนั่งนานและอยู่ในห้องแอร์
.
.
ค่าไตอยู่ระยะ 4 ช่วงต้นๆ ซึ่งถือว่ามีภาวะไตเสื่อมแล้ว แต่คนไข้คุมอาหาร
อาการอื่นๆ จึงไม่ค่อยปรากฏ
.
การรักษาในครั้งแรกหมอแนะนำกินยาจีนฟื้นฟูไต แต่คนไข้ยังไม่รับ คงมีความกังวลและไม่มั่นใจ
หมอจึงทำการรักษาโดยฝังเข็มและครอบแก้วแก้ปวดตึงขาเพียงอย่างเดียว
แต่ก็ฝังเข็มจุดบำรุงไตเพิ่มไปให้ด้วย
.
.
นัดคนไข้มารักษาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คนไข้อาการดีขึ้น แต่ไม่มากเท่าที่ควร
ดีขึ้นน้อยกว่าเคสอื่นๆ ที่เคยเจอมา
.
.
หมอจึงลองถามอีกครั้งเกี่ยวกับค่าไตและแนะนำให้ลองทานยาจีนดู
เพราะถ้าปล่อยไว้ค่าไตแย่ไปกว่านี้จะฟื้นกลับมายาก
คนไข้จึงยอมทานแบบแคปซูลดูก่อน   ปรากฏว่าอาการปวดขาดีขึ้น
.
.
เป็นอย่างที่หมอคาดการไว้ว่า

“อาการปวดของคนไข้ท่านนี้น่าจะมีสาเหตุจาก"ไตเสื่อม"
ร่วมด้วย ไม่ใช่เพียงแค่กล้ามเนื้อ”

ถึงแม้ว่าจะไม่ปวดหลังด้วยก็ตาม (ตำแหน่งที่ไตอยู่)
.
พอคนไข้นำผลตรวจล่าสุดมาให้ จึงเห็นสมควรว่าต้องทานยาต้ม
จึงแนะนำให้ทานยาต้ม2-3เดือน แล้วกลับไปตรวจดูผลอีกครั้ง
รวมทั้งต้องคุมอาหารและฝังเข็มร่วมด้วย
.
.
หลังทานยาต้มไป 1 สัปดาห์ อาการก็ยิ่งดีขึ้นอย่างชัดเจน
เริ่มกลับไปเดินวิ่งออกกำลังกายได้แล้ว เริ่มนั่งห้อยขาได้
.

.
อีกเคสหนึ่งคนไข้นอนไม่หลับ ปวดหัว ปวดตา และมีอาการออฟฟิตซินโดรมร่วมด้วย
หลังทำการฝังเข็มคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับครอบแก้วไปเพียงครั้งเดียว อาการปวดหัว
ปวดตาหายไปอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งสัปดาห์มีแค่ 1ครั้งที่ปวดหัว และการนอนหลับก็ดีขึ้น

ซึ่งคนไข้ท่านนี้สาเหตุมาจากการใช้สายตา ใช้สมอง นั่งนาน
ทำให้เลือดไม่เพียงพอไปดูแลอวัยวะ (ตับมีหน้าที่เก็บสะสมเลือด และตาคือทวารของตับ)
บวกกับการทำงานค้างท่าเดิมนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งไม่คลายตัว
การไหลเวียนเลือดก็ติดขัด ยังมีแรงกดดันในการทำงาน ก่อเกิดอาการปวดบ่า ปวดคอ
จนไปทำให้ปวดหัว ปวดตาร่วมด้วย สะสมนานวันจนทำให้นอนไม่หลับนั่นเอง
.
.
ดังนั้น หมอ "ไม่อยากให้มองเรื่องปวดเป็นเรื่องไกลตัว”
โดยเฉพาะเมื่อปวดก็ซื้อยาแก้ปวด ยาคลายเส้นมาทานเองเป็นประจำ
หรือทนปวดรอให้สุดๆ ก่อนแล้วถึงมาหาหมอ อาการก็จะหนัก
ทำให้การรักษายิ่งต้องใช้เวลานาน การฟื้นฟูก็จะยิ่งช้า สำคัญที่สุดเลย
.
.
อาการปวดนั้นอาจจะไม่ใช่แค่ปวดธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป  ก็เป็นได้


รู้ไวรักษาไวหายไว

หมอแพน 

 

 

Visitors: 131,505