ปวดหัว ปวดเบ้าตาด้วยอันตรายกว่าที่คุณคิด

ปวดหัวข้างเดียว อันตรายกว่าที่คิด

       วันก่อนผู้ป่วยหญิงท่านหนึ่ง อายุ 38 ปี มารักษาอาการปวดศีรษะข้างขวาเป็นประจำมาเป็นเวลา 5 ปี

เวลาปวดจะร้าวมาที่เบ้าตา ทำให้ตาพร่ามัวด้วย 

กินยาแก้ปวดบางครั้งหาย บางครั้งไม่หาย

และยังปวดต้นคอร้าวลงแขนซ้าย เจ็บจี๊ดมาที่หน้าอกซ้ายเป็นบางครั้ง

2-3 เดือนมานี้อาการดังกล่าวเป็นบ่อยขึ้น รักษามานานไม่หาย

 ==========================

อาการของเธอแบ่งได้เป็น 2 เรื่อง

เรื่องแรก 
คืออาการปวดศีรษะขวาข้างเดียว

ที่น่าสนใจก็คือแต่ละครั้งที่เริ่มปวดศีรษะด้านขวาจะปวดร้าวมาที่เบ้าตาขวา
พร้อมกับสายตาขวาพร่ามัวด้วย 

พอหายปวดศีรษะ อาการปวดตาขวาหายไปด้วย สายตาก็มามองชัดเจนเหมือนเดิม

 อาการเช่นนี้แตกต่างกับการปวดศีรษะตามปกติทั่วไป

เพราะจะมีความเสี่ยงของการเป็น "ต้อหินชนิดเรื้อรัง" ที่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

--------------------------------------------------------------

 

      สมัยเรียน เคยมี ผู้หญิงท่านหนึ่ง เธอมีอาการปวดหัวข้างขวาข้างเดียวเป็นประจำ ตั้งแต่อายุ 16 ปี
โดยเฉพาะเวลาเครียด เวลาปวดจะร้าวไปที่เบ้าตา พร้อมกับตามัวมองไม่ชัด


ไปตรวจที่โรงพยาบาลทีไร คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ "ปวดไมเกรน" กินยาแก้ปวดเป็นประจำ


แรกๆ ได้ผลดีอยู่ เวลาผ่านไป

พออายุเธอ 20 กว่า อาการปวดศีรษะ ร้าวมาที่เบ้าตา สายตาพร่ามัวเพิ่มมากและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ถึงตอนนี้กินยาหายบ้างไม่หายบ้าง หรือทุเลาได้ไม่นาน
พอปวดศีรษะทุเลาลงสายตาสายตาก็ยังพร่ามัวไม่หายไป

พอปวดศีรษะบ่อยๆ สายตาก็ยังพร่ามัวค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

        จนอายุ30 กว่าแต่งงงานมีลูกแล้ว  ไปตรวจละเอียดอีกครั้งเพราะสายตาข้างขวาเริ่มมองไม่เห็น
ข้างซ้ายก็เริ่มเบลอ คุณหมอสรุปว่าเป็น "โรคต้อหินชนิดเรื้อรัง"

กว่าจะรู้ว่าเป็นต้อหินก็เสียตาไป 1 ข้าง และอีก 1 ข้างกำลังตามมา
เป็นบทเรียนที่เจ็บปวด

---------------------------------------------------------------

จากตัวอย่างนี้ ทำให้ผู้เขียนต้องระมัดระวังมากหากผู้ป่วยมารักษาด้วย

อาการ

"โรคปวดศีรษะข้างเดียว"หรือที่ชอบเรียกกันว่า ไมเกรน

จะถามย้ำเสมอว่า

"นอกจากมีอาการปวดศีรษะแล้ว
ยังมีอาการปวดร้าวมาที่เบ้าตาพร้อมกับสายตาพร่ามัวหรือไม่"

----------------------------------------------

          สำหรับผู้ป่วยท่านนี้อาการปวดร้าวมาที่เบ้าตา และมีสายตาพร่ามัวอย่างชัดเจน
จึงค่อนข้างแน่ใจว่าเธอน่าจะเป็นโรคต้อหินขนิดเรื้อรัง จึงได้ให้ยาจีนรักษาต้อหินไป
พร้อมกับฝังเข็มในจุดของโรคตา ผ่านไป 1 สัปดาห์มาตรวจอีกครั้ง
เธอบอกว่าอาการที่เคยปวดศีรษะทุกสัปดาห์ ตั้งแต่เริ่มรักษามาถึงตอนนี้ยังไม่ปวดเลย
แต่ก็ต้องรักษากันต่อเนื่องไป ไม่ประมาท

========================

 

เรื่องที่ 2

การปวดต้นคอร้าวมาที่แขนซ้าย บางครั้งเจ็บจี๊ดที่หน้าอก


น่าจะเกิดจาก กระดูกต้นคอเคลื่อนขยับ เบียดทับเส้นประสาท
ทำให้มีอาการปวดต้นคอแล้วร้าวไปยังแขนซ้ายและหน้าอกซ้าย
เพราะเส้นประสาทที่ต้นคอจะดูแลส่วนแขน และมีบางแขนงจะแบ่งไปดูแลบริเวณหน้าอกด้วย

จึงทำการฝังเข็ม ครอบแก้วเพื่อคลายกล้ามเนื้อต้นคอ
จากนั้นก็ทุยหนาจัดกระดูกตามแบบหมอจีน เพื่อให้กระดูกเล็กๆเข้าที่เข้าทาง
ไม่ต้องไปเบียดทับเส้นประสาท ผ่านไป 1 สัปดาห์มาพบอีกครั้ง อาการดังกล่าวทุเลาลง

===========================================

 

ติดต่อเรา

สอบถามรายละเอียด
นัดหมาย หรือ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

CLICK เลย!!

 

ฝังเข็ม ติดต่อไพรเวช

ติดต่อ ไพรเวชคลินิก 


  • เพราะตับดูแลเส้นเอ็น เล็บเป็นส่วนหนึ่งของเส้นเอ็น ถ้าตับแข็งแรง เล็บจะเป็นเงางาม
    เป็นสีชมพู มีแสงสะท้อน ขอบเล็บสดใสชุ่มชื้นไม่แห้งหรือเป็นขุย

  • น้ำผลไม้แยกกาก ดี แต่ควรจะกินแต่พอดีไม่มากเกินไป ถ้ามากไปจะเป็นผลเสียทันที

  • หลายคนสงสัยว่า แค่เข็มปักลงไปในร่างกายนั้น จะสามารถรักษาโรคได้อย่างไร มาดูกันว่าแพทย์แผนจีนนั้นจะอธิบายว่ายังไง
Visitors: 111,592