เสมหะทำให้ซีสต์ในร่างกาย

ซีวต์ในร่างกาย

เสมหะทำให้ถุงน้ำ(ซีสต์)ในร่างกายได้

       ถุงน้ำในร่างกายหรือที่เราเคยชินจนเรียกว่า “ซีสต์”
สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ของร่างกาย
ไม่ว่าจะภายนอกที่มองเห็นด้วยตาเปล่า
เช่น ตามใต้ผิวหนัง  ใต้ตา
หรือภายในอวัยวะ
เช่น  ถุงน้ำในไต  ในตับ  ในรังไข่   ในสมอง  เป็นต้น 


ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้น ณ.ที่แห่งใด
สำหรับการแพทย์แผนจีนนั้นล้วนมาจาก

“ภายในร่างกายมีเสมหะขุ่นข้น”

เกาะกลุ่มกันเป็นก้อนขึ้นในที่ที่เส้นลมปราณเดินติดขัด
ทำให้ชี่เลือดอุดกั้น  ผสมผสานกับความชื้นก่อเป็นเสมหะจับกลุ่มก้อนนั่นเอง

===================

คำว่าเสมหะในแผนจีน   มีสองแบบ



เสมหะที่มองเห็นได้ 
ที่ขับออกทางปอด  ทางปาก  ทางจมูก   เรียกว่า  เสมหะที่มีรูป 
......................................



และยังมีเสมหะที่ไม่มีรูป   ที่มีอยู่ในร่างกาย
แสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ  เช่น
ถ้าอยู่ในเส้นเลือดจะออกมาในรูปไขมันในเลือดสูง
อยู่ในอวัยวะต่างๆจะออกมาในรูปเป็นถุงน้ำ เช่น
ในรังไข่  ในไต  ในสมอง  ในตับ  หรือใต้ผิวหนัง
รวมถึงสภาพร่างกายที่อ้วนมีน้ำหนักเกินแม้จะกินน้อยแต่อ้วนง่ายแต่ลดยาก

=============

เสมหะถ้าขึ้นไปที่สมอง  จะเวียนหัว  หนักหัว  ปวดหัว

ถ้าอยู่ในกระเพาะม้าม  จะเบื่ออาหาร   กินอาหารไม่อร่อย

ถ้าอยู่ที่ปอดจะไอมีเสมหะ   หรือ

ออกมาในรูปวัณโรคต่อมน้ำเหลือง  วัณโรคกระดูก  เป็นต้น

ด้วยเหตุผลนี้   การรักษาโรคเหล่านี้ของแผนจีน
จึงต้องมีบริบทในการใช้วิธีขับความชื้น  ขับเสมหะออกจากร่างกาย

================

 

 แล้ว…….เสมหะเหล่านี้มาจากไหน??

ในแผนจีน  เสมหะเกี่ยวข้องกับการทำงานของม้ามอย่างแยกกันไม่ได้
เพราะหากม้ามทำงานแข็งแรง  จะช่วยจัดการกับน้ำในร่างกาย
ที่ควรขับก็ขับ  ที่ควรเก็บก็เก็บ   มีความสมดุล  จึงไม่มีความชื้นเกิดขึ้น
เมื่อไม่มีความชื้นก็ไม่มีโอกาสเกาะกลุ่มเป็นเสมหะ  จนเกิดเป็นถุงน้ำขึ้นมา

............

สมหะทำให้เกิดถุงนี้ได้อย่างไร?

หากเมื่อใดที่ม้ามทำงานอ่อนแอ
ไม่สามารถจัดการการเก็บการขับน้ำได้ตามปรกติ
ทำให้เกิดน้ำขัง  บังเกิดความชื้น   เกาะกลุ่มเป็นเสมหะขึ้นในร่างกาย
จนสามารถเกิดเป็นถุงนี้หรือซีสต์ได้
ส่วนจะเกิดขึ้นในอวัยวะใด  ขึ้นอยู่กับการไหลเวียนติดขัดและอ่อนแอของอวัยวะนั้น ๆ

===================

จากเหตุผลนี้การรักษา  “ถุงน้ำ” ของแผนจีน
จึงต้อง ผ่านการบำรุงม้าม ขับชื้น

เมื่อม้ามแข็งแรง  จะช่วยบริหารจัดการน้ำได้ดี

ความชื้นในร่างกาย  เสมหะไม่ว่าจะมีรูปหรือไม่มีรูปก็สามารถขจัดไปได้
เมื่อความชื้นขจัดไปได้   ถุงน้ำก็จะค่อยๆหายไปได้

กระบวนการนี้ไม่ใช่ทำได้ชั่วข้ามวัน  ต้องให้เวลาในการฟื้นฟูม้ามเช่นกัน
จะไม่ใช่รักษาปุ๊บหายปั๊บเหมือนการผ่าตัด

=====================

       นอกจากนี้  การที่มีถุงน้ำในอวัยวะใด
ย่อมขึ้นกับความสมดุลในทำงานของอวัยวะภายในด้วย  เช่น

ถุงน้ำในเต้านม  ในรังไข่  มักจะเกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ
หากมีความเครียดกังวล  นอนดึก  พักผ่อนน้อย
ทำให้ชี่ตับติดขัดเดินไม่สะดวก  มีการอั้น
เสมหะที่มีในร่างกายก็จะหยุดตามจุดอ่อนที่เส้นลมปราณเดินผ่าน

เส้นลมปราณตับ เดินผ่านมดลูก รังไข่ เต้านมและไทรอยด์เป็นต้น
ก้อนหรือถุงน้ำจึงเกิดขึ้นในบริเวณนี้

================

 

     การกินดื่มอาหารที่หนาวเย็น  เป็นการดับความอบอุ่นของกระเพาะม้าม
กระเพาะม้ามจึงอ่อนแอ  และความเย็นยังทำให้เส้นลมปราณติดขัด

เลือดไหลเวียนไม่คล่อง
ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ
ที่ทำให้เกิดถุงน้ำและก้อนในบริเวณเหล่านี้เช่นกัน

================

 

Visitors: 111,448